อาหารเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

สถานการณ์ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นปัญหา มลภาวะฝุ่น PM 2.5 หรือแม้กระทั่งปัญหาจาก Corona Virus หรือที่เรียกกันว่า Covid-19 นั้นยังคงเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งสิ้น ทั้งก่อให้เกิดความเครียด และยังเป็นต้นเหตุ ทำให้เกิดโรคต่างๆ อีกด้วย เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคผิวหนัง ที่เกิดจากฝุ่น PM 2.5 และโรคปอดอักเสบจากเชื้อ Covid-19 ดังนั้น เราจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้วิธีดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคร้ายเหล่านี้ เริ่มต้นด้วยเรื่องใกล้ตัวเราที่สามารถทำได้ง่าย เช่น การรับประทานอาหาร โดยเราสามารถเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ง่าย ซึ่งอาหารที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มีดังนี้

1. เห็ดต่างๆ เช่น เห็ดถังเช่า เห็ดหลินจือ เห็ดไมตาเกะ และเห็ดชิตาเกะเป็นต้น ซึ่งเห็ดเหล่านี้มีสารประกอบที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและต่อต้านโรคร้ายต่างๆได้ ดังนี้

1.1 เห็ดถังเช่า (Cordyceps) อุดมด้วยสารกลุ่มพอลิแซคคาไรด์ เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และยังมีเบต้ากลูแคน (β- Glucan) ที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นระบบภูมิต้านทานของร่างกายอีกด้วย นอกจากนี้ในเห็ดถังเช่ายังมี อะดีโนซีน (Adenosine) กัวโนซีน (Guanosine) และคอดีซีปิน (Corycepin) ซึ่งเป็นสารเฉพาะตัวสำคัญที่พบในถั่งเช่า มีผลในการช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทานของร่างกายเช่นกัน

1.2 เห็ดหลินจือ (Reishi / Linzhi) มีสารกลุ่มพอลิแซคคาไรด์ และมีเบต้ากลูแคน (β- Glucan) ที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างระบบภูมิต้านทาน นอกจากนั้นยังมีไตรเตอร์พีนอยด์ (triterpenoid) หรือ triterpene ซึ่งเป็นสารประกอบมากกว่า 119 ชนิด ซึ่งสารที่สำคัญที่สุดคือ กรดกาโนเดอริค (ganoderic acid) มีสรรพคุณในการลดอาการภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคปอด และต่อต้านการอักเสบ เป็นต้น

1.3 เห็ดไมตาเกะ (Maitake) มีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็ง มีสาร Grifolan ซึ่งเป็นสารเบต้า-กลูแคน และมีโพลีแซคคาไรด์ ช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย นอกจากนี้เห็ดไมตาเกะยังมีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิต ไขมันในเลือดซึ่งเป็นความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจได้อีกด้วย

1.4 เห็ดชิตาเกะ (Shitake) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ เห็ดหอม เป็นแหล่งวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารมากมาย นอกจากนี้ยังมีสารไฟโตนิวเทรียนหลายชนิด มีงานวิจัยมากมายที่ระบุว่าเห็ดหอม ช่วยป้องกันระบบภูมิคุ้มกันไม่ให้ทำงานมากเกินไป และยังช่วยกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ในเห็ดหอมมีโพลิแซคคาไรด์ ที่ช่วยลดคอเลสเทอรอล ต้านมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก เต้านม และสำใส้ใหญ่

2. ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินซีมีคุณสมบัติในการเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาว และช่วยเสริมให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งหน้าที่หลักของเม็ดเลือดขาวนั้นคือการต่อต้านและกำจัดเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงเชื้อไวรัสที่เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นการรับประประทานวิตามินซีจึงทำให้ร่างกายของเราสามารถกำจัดเชื้อโรค เชื้อไวรัสและสิ่งแปลกปลอมต่างๆได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้วิตามินซียังทำหน้าที่ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสื่อมของเซลล์ต่างๆได้อีกด้วย ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง มีดังนี้

2.1 อเซโรลล่า เชอร์รี่ (Acerola Cherry) ใน อเซโรลล่าเชอร์รี่ มีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 30-80 เท่า และยังมีไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเสริมการทำงานของวิตามินซีด้วยช่วยให้ร่างกายสามารถนำวิตามินซีไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนป้องกันการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย

2.2 ซีบัคทอร์น (Seabuckthorn) อุดมไปด้วยวิตามินมากมาย ได้แก่ วิตามิน A,C,D,E และ K และมีวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 15 เท่า มีฟีนอลที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีไลโคปีน ทำให้หลอดเลือดแข็งแรง และทำให้ระบบโลหิตไหลเวียนดีขึ้น

2.3 โรสฮิป (Rose Hip) หรือผลกุหลาบป่า มีวิตามินซีสูงกว่าตระกูลส้มถึง 20 เท่า ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมของเซลล์ กระตุ้นการทำงานของตับในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และยังมีงานวิจัยที่ระบุว่าสาร Galacotolipid จากโรสฮิป ช่วยลดการปวดตามข้อ เนื่องจากข้ออักเสบได้อีกด้วย

3. ข้าวโอ๊ต (Oat) ข้าวโอ๊ตถือเป็นแหล่งของเบต้ากลูแคนที่ดี ซึ่งเบต้ากลูแคนถือเป็นสารที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยเบต้ากลูแคนจะทำหน้าที่ในการกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกาย เช่น ต่อต้านเชื้อจุลอินทรีย์ และสิ่งแปลกปลอมทุกชนิดไม่เลือกหน้า ไม่ว่าจะเป็นไวรัส แบคทีเรีย เชื้อราและมะเร็ง เบต้ากลูแคนจะกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกัน คือเซลล์เม็ดเลือดขาวขนาดใหญ่ (Macrophage) เซลล์เม็ดเลือดขาวนิวโทรฟิล (Neutrophil) และเซลล์เพชฌฆาตธรรมชาติ (Natural Killer Cell) ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการทำลายเชื้อโรค เซลล์ผิดปกติ และสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย และยังช่วยป้องกันและลดอาการภูมิแพ้ โดยการช่วยเพิ่มเม็ดเลือดขาวและปรับสมดุลให้ตรงตามที่ร่างกายต้องการ และสร้างความแข็งแรงให้กับเม็ดเลือดขาว

4. โสม (Ginseng)  สารจินเซนโนไซด์ในโสม มีสรรพคุณมากมาย เช่น เสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมองปรับสมดุลความดันโลหิตเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฮอร์โมนอินซูลิน และยังมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันคือกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวกำจัดสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรค อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันภาวะเลือดจางได้อีกด้วย

นอกจากการเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การป้องกันตัวเองด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่มีความเสี่ยง งดเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง รับประทานอาหารที่ปรุงสุก สะอาด ใช้ช้อนกลาง และพักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพียงเท่านี้เราก็สามารถดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากเจ้าโรคร้ายเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี